キセキ (kiseki)

キセキ (kiseki)

Greeeen

明日(あした、今日(きょう)よりも好き(すき)になれる溢(あふ)れる想(おも)いがとまらない

ashita kyou yori mo suki ni nareru   afureru omoi ga tomaranai

วันพรุ่งนี้จะยิ่งรักเธอมากกว่าวันนี้ ความรู้สึกนั้นมันมากมายล้นเอ่อจนเกินจะฉุดรั้ง

今(いま)もこんなに好き(すき)でいうのに　言葉(ことば)に出来(でき)ない

ima mo connani suki de iu no ni      kotoba ni dekinai

ทั้งที่รักเธอมากขนาดนี้ แต่ก็ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยมันออกมาได้

君(きみ)のくれた日々が積(つ)み重(かさ)なり 過(す)ぎ去(さ)った日々(ひび)2人歩(ある)いた「軌跡(きせき)」

kimi no kureta hibi ga tsumikasanari  sugisatta hibi futari aruita「kiseki」

วันคืนที่เธอมีให้ฉันนั้นมันได้สั่งสม เมื่อเวลาผ่านไปมันได้ก่อเกิดเป็นรอยทางของสองเรา

僕(ぼく)らの出逢(であ)いかもし偶然(ぐうぜん)ならば　運命(うんめい)ならば

boku no deai kamoshi guuzen naraba unmei naraba

การที่สองเราได้มาเจอกัน มันเป็นเพราะความบังเอิญ หรือเป็นเพราะโชคชะตากันนะ

君(きみ)に巡(めぐ)り合(あ)えた　それって「奇跡(きせき)」

kimi ni meguri aeta sorette 「kiseki」

จะเพราะอะไรก็ตามแต่ การที่ได้มาเจอเธอสำหรับฉันแล้วมันคือปาฏิหารย์

2人(ふたり)寄(よ)り添(そ)って歩(ある)いて　永久(とわ)の愛(あい)を形(かたち)にして

futari yori sotte aruite towa no ai wo　katachi ni shite

สองเราจะเดินเคียงข้างกัน ร่วมสร้างรักอันเป็นนิรันดร์

いつまでも君(きみ)の横(よこ)で　笑(わら)っていたくて

itsu made mo kimi no yoko waratte itakute

อยากจะอยู่ข้างๆเธอพร้อมกับรอยยิ้มตลอดไป

アリガトウやAh… 愛(あい)しているじゃまだ足(たり)りないけど

arigatou ya Ah… aishiteiru ja mada tarinai kedo

คำพูดว่าขอบคุณ หรือ คำว่ารักนั้นมันคงไม่เพียงพอ

せめて言(い)わせて　「幸(しあわ)せです」と

semete iwasete 「shiawase desu」to

ฉันคงพูดได้เพียงว่า ฉันมีความสุข

いつも君(きみ)の右(みぎ)の手(て)の平(ひら)を　ただ僕(ぼく)の左(ひだり)の手(て)の平(ひら)が

itsumo kimi no migi te no hira tada boku no hidari no te nohira ga

ทุกครั้งที่มือขวาของเธอกับมือซ้ายของฉัน

そっと包(つつ)んでくそんだけで　ただ愛(あい)を感(かん)じていた

sotto tsutsundeku son dake de tada ai wo kanjite ita

ได้เกาะกุมกันนั้น มันสัมผัสได้ถึงความรัก

日々(ひび)の中(なか)で小(ちい)さな幸(しあわ)せ見(み)つけ重(かさ)ね　

hibi no naka de chiisana shiawase mitsuke kasane

ความสุขเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันมันได้ทับถมกัน

ゆっくり歩(ある)いていた「軌跡(きせき)」

yukkuri aruiteita 「kiseki」

ค่อยๆก่อเกิดเป็นรอยทางของสองเรา

僕(ぼく)らの出会(であ)いは大き(おおき)な世界(せかい)で小(ちい)さな出来事(できごと)

bokura no deai wa ookina sekai de chiisana dekigoto

การพบกันของสองเราอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยบนโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้

巡(めぐ)り合(あ)えた　それって「奇跡(きせき)」

meguri aeta sorette 「kiseki」

แต่สำหรับฉันแล้วมันคือปาฏิหารย์

うまく行(い)かない日(ひ)だって　2人(ふたり)で居(い)れば晴(は)れだって

umaku ikanai hi datte futari  de ireba hare datte

ในวันที่ไม่เป็นดั่งใจ แต่ถ้าสองเราอยู่ด้วยกันมันจะกลายเป็นวันที่สดใส

強(つよ)がりや寂(さび)しさも　忘(わす)れられるから

tsuyogariya sabishisa mo wasurerareru kara

การที่ต้องแสร้งว่าเข้มแข็งหรือความเดียวดายนั้นมันจะมลายหายไป

僕(ぼく)は君(きみ)でなら僕(ぼく)で居(い)れるから

boku wa kimi de nara boku de ireru kara

เพราะเมื่ออยู่กับเธอฉันสามรถเป็นตัวของตัวเองได้

だからいつも　そばにいるよ　「愛(いと)しい君(きみ)へ」

dakara itsumo soba ni iru yo  「itoshii kimi e」

เพราะฉะนั้น ได้โปรดอยู่เคียงข้างฉันตลอดไปนะที่รัก

2人(ふたり)フザけあった帰(かえ)り道(みち)　それも大切(たいせつ)な僕(ぼく)らの日々(ひび)

futari fuzake atta kaeri michi soremo taisetsuna bokura no hibi

ในวันนั้นวันที่สองเราเดินหยอกล้อกันระหว่างทางกลับบ้าน มันเป็นสำคัญของเรา

「想(あも)いよ届(とど)け」と伝(つた)えた時(とき)に初(はじ)めて見(み)せた表情(ひょうじょう)の君(きみ)

「omoi yo todoke」to tsutaeta toki ni hajimete miseta hyuujou no kimi

ในวันนั้นฉันได้บอกความในใจแก่เธอ มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นสีหน้าเธอในแบบนั้น

少(すこ)し間(あいだ)が空(あ)いて　君(きみ)がうなずいて　

sukoshi aida ga aite kimi  ga unazuite

เธอนิ่งอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับ

僕(ぼく)らの心(こころ)満(み)たされてく愛(あい)で

boku no kokoro mitasareteku ai de

นับแต่นั้นหัวใจของเราสองก็เปี่ยมไปด้วยรัก

僕(ぼく)らまだ旅(たび)の途中(とちゅう)でまだこれから先(さき)も

bokura mada tabi no tochou de mada  korekara saki mo

พวกเรายังแค่อยู่ระหว่างเดินทาง ต่อจากนี้

なん十年(じゅうねん)続(つづ)いていけるような未来(みらい)へ

nan juunen tsuzuite ikeru yo na  mirai e

ยังต้องเดินทางอีกหลายสิบปีเพื่อไปสู่อนาคตนั้น

例(たと)えばほら明日(あした)を見失(みうしな)いそうに僕(ぼく)らなったとしても

tatoeba hora ashita wo miushinai sou ni bukura natta toshitemo

ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ความเป็นไปของวันพรุ่งนี้

2人(ふたり)寄(よ)り添(そ)って歩(ある)いて　永久(とわ)の愛(あい)を形(かたち)にして

futari yori sotte aruite towa no ai wo katachi no shite

แต่สองเราก็จะเดินเคียงข้างกัน ร่วมสร้างรักอันเป็นนิรันดร์

いつまでも君(きみ)の横(よこ)で笑(わら)っていたくて

ittsu made mo kimi no yoko de wratte itakute

ฉันจะอยู่ข้างๆเธอพร้อมรอยยิ้มตลอดไป

アリガトウや　Ah...愛(あい)してじゃまだ足りないけど

arigatou ya Ah…aishite ja mada tarinai kedo

คำพูดว่าขอบคุณ หรือ คำว่ารักนั้นมันคงไม่เพียงพอ

せめて言(い)わせて　「幸(しあわ)せです」と

semete iwasete 「shiawase desu」to

ฉันคงพูดได้เพียงว่า ฉันมีความสุข

うまく行(い)けない日(ひ)だって　2人で居(い)れば晴(は)れだって

umaku ikenai hi date futari de ireba hare datte

ในวันที่ไม่เป็นดั่งใจ แต่ถ้าสองเราอยู่ด้วยกันมันจะกลายเป็นวันที่สดใส

喜(よろこ)びや悲(かな)しみも　全(すべ)て分(わ)け合(あ)える

yorokobi ya kanashi mo subete wake aeru

ความสุขความเศร้าโศรกทั้งหมดทั้งมวลเราจะร่วมแบ่งปันกัน

君(きみ)がいるから　生(い)きていけるから

kimi ga iru kara ikite ikeru kara

เพราะมีเธอ จึงมีฉัน

だからいつも　そばにいるよ　「愛(いと)しい君(きみ)へ」

dakara itsumo soba ni iru yo 「itoshii kimi e 」

เพราะฉะนั้น ได้โปรดอยู่เคียงข้างฉันตลอดไปนะที่รัก

最後(さいご)の一秒(いちびょう)まで

saigo no ichibyuu made

อยู่ด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย

明日(あした)、今日(きょう)より笑顔(えがお)になれる君(きみ)がいるだけで　そう思(おも)えるから

ashita kyuu yori egao ni nareru kimi ga iru dake de sou omoieru kara

วันพรุ่งนี้ใบหน้าจะเปื้อนยิ้มมากกว่าวันนี้ เพราะมีเธออยู่ฉันจึงคิดเช่นนั้น

何十年(じゅうねん)　何百年(なんびゃくねん)　何千年(せんねん)を超(こ)えよう　君(　きみ)を愛(あい)してる

nanjuunen nanbyakunen nansennen wo koeyo kimi wo aishiteru

ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปสักสิบปี ร้อยปี หรือพันปี ฉันก็ยังคงจะรักเธอ

    คำว่า　キセキ(kiseki) นั้นในตัวอักษรคันจิของญี่ปุ่นนั้นมีสองแบบ สองความหมาย คือ　「軌跡」และ 「奇跡」ทั้งสองอ่านว่า キセキ(kiseki) เหมือนกัน แต่「軌跡」ตัวนี้แปลว่า ร่องรอยแห่งความหลัง สำหรับ 「奇跡」ตัวนี้แปลว่าปาฏิหารย์ หรือมหัศจรรย์ 

    ที่เลือกแปลเพลงนี้เพราะชอบในความเพราะและความหมายของเพลง  และช่วงนี้มีหนังเกี่ยวหนุ่มๆนักดนตรีวงนี้ด้วย Greeeen เป็นกลุ่มนักศึกษาทัณตแพทย์ที่มีความรักในดนตรี แต่พวกเขาไม่เคยเผยโฉมหน้า ไม่ออกทัวร์คอนเสริตทั้งๆที่ดังมาก เอาตัวอย่างหนังมาแปะไว้ให้ด้านล่างนะคะเผื่อมีใครสนใจ